สว่าน

สว่าน

เรื่องของสว่าน

ตอนนี้ที่นิยมกันคือสว่านไร้สาย ทั้งแบบแปรงถ่าน ไร้แปรงถ่าน แต่อย่างไงก็ตามสว่านไฟฟ้าก็ทิ้งไม่ได้นะคะทุกคน

โดยสว่านสามารถแบ่งได้เป็น 5 ชนิดหลักๆด้วยกัน ได้แก่

1. สว่านไขควงไฟฟ้า : เอาไว้ขันสกรู เจาะงานเล็กๆ 

2. สว่านไฟฟ้า : หรือสว่านทั่วไป ส่วนกำลังไฟฟ้าจะไม่สูงมาก ประมาณ 300-500 วัตต์ มี 2 ระบบ คือ เจาะธรรมดา งานไม้ งานเหล็ก พลาสติก

3. สว่านกระแทก : เป็นสว่าน 3 ระบบ ส่วนไม่ต่างกับสว่านไฟฟ้าเพียงแค่เจาะปูนได้ แต่ไม่ใช่คอนกรีต กำลังไฟฟ้าจะสูง

4. สว่านโรตารี่ : สว่านใหญ๋ที่เหมาะกับงานปูนและงานสกัด แต่สกัดได้เล็กน้อย

5. สว่านไร้สาย : จากสว่านข้อ 1-4 สมัยนี้นิยมทำเป็นแบบไร้สายกันแล้ว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคมากขึ้น  

เรื่องของบล็อก

ไม่ว่าจะเป็น บล็อกลม บล็อกไฟฟ้า หรือบล็อกไร้สายเป็นเครื่องมือช่างในการขันน็อต หรือคลายน็อต แทนประแจมือ เพื่อเพิ่มความสบาย ลดความบาดเจ็บ

โดยมีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่

1. บล็อกลม : การขันและคลายโดยใช้แรงลมเป็นตัวขับเคลื่อน โดยบล็อกลมมีรูปทรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทรงปืน ทรงกระบอก และทรงงอ 90 องศา 

2. บล็อกไฟฟ้า : มีตัวปรับซ้ายและขวาเพื่อขันและคลาย เสียบไฟ ใช้ได้เลย สะดวกสบาย 

3. บล็อกไร้สาย : บล็อกที่ใช้แบตลิเธียมไอออน การทำงานเช่นเดียวกันกับบล็อกไฟฟ้า พกพาสะดวก แต่อย่างไรก็ตามบล็อกไร้สาย กำลังและแรงน้อยกว่าบล็อกลมและบล็อกไฟฟ้าแน่นอน 

เรื่องของชุดประแจบล็อก

มักเป็นที่นิยมในการใช้งานไขน็อต อุปกรณ์หลักๆที่มักจะเห็นตามท้องตลาด ได้แก่ ลูกบล็อก ด้ามฟรี ข้อต่อ ตัวต่อเพิ่มระยะ เป็นต้น ซึ่งราคาแตกต่างไปตามจำนวนชิ้น

โดยขอแยกเป็นสินค้าที่อยู่ในชุดประแจบล็อก ได้ดังนี้

1. Socket : ทำมจากเหล็กโครเมียม มี 6 เหลี่ยมและ 12 เหลี่ยม มีทั้งลูกบล็อกสั้น ลูกบล็อกยาว ลูกบล็อกสำหรับน็อตหัวรูด บล็ฮกตัวที ฯลฯ มาตรฐานขนาดที่เรียกลูกบล็อกมี มิล และ นิ้ว

    โดยปกติลูกบล็อกมี 2 ด้าน ด้านต่อกับด้ามฟรี ส่วนอีกด้านคือต่อน็อต ไซส์ตามน็อตที่จะไขนั้นๆ ที่มีตั้งแต่ 3-100 มิล 

2. ด้ามฟรีหรือกรออกแกรก : มีขนาดมาตรฐานหลักมีอยู่ 5 ขนาด คือ 2,3,4,5,6 หุน ด้ามฟรียิ่งยาวมากจะมีแรงขึ้น 

เรื่องของเลื่อย

เป็นเครื่องมือช่างที่สำหรับตัดวัสดุที่มีความแข็ง เช่น ไม้ โลหะเหล็ก ท่อพลาสติก เป็นต้น ปัจจุบันเลื่อยมีการออกแบบหลากหลายประเภทตามการใช้งานเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น 

โดยประเภทของเลื่อยแบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้

1. เลื่อยฉลุหรือเลื่อยจิ๊กซอว์ : ลักษณะของเลือยจะมีลักษณะคล้ายเตารีด ใช้งานง่าย คล่องตัว ภายในเครื่องจะมีมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ให้ใบขยับขึ้นลงเป็นแนวตรง

2. เลื่อยวงเดือน : ใช้กับงานที่ค่อนข้างขนาดใหญ่ โดยกำลังงานที่ใช้จะประมาณ 500-1500 วัตต์ 

3. แท่นเลื่อยวงเดือน หรือ โต๊ะเลื่อย : นิยมในโรงเลื่อยที่ต้องตัดไม้ขนาดใหญ่ 

4. เลื่อยตัดปรับมุม : เป็นเลื่อยที่ทำการปรับมุมได้ตั้งแต่ 45-90 องศา นิยมในการตัดไม้เพื่อทำวงกรอบ คิ้ว หรือ กรอบรูป เป็นต้น

5. เลื่อยชักใบ : เลื่อยชนิดนี้มีความคล่องตัวสูง มีลักษณะคล้ายสว่าน มีหลากหลายขนาด และตัดงานได้หลากหลาย