งานตัด
เรื่องของงานตัด
นอกจากเลื่อยที่เรารู้จักกัน ในบรรดาเครื่องมือช่างยังได้มีการแบ่งงานตัดอีกหลากหลายอย่างด้วยกัน
1. เครื่องตัดเหล็ก หรือ แท่นตัดไฟเบอร์ ：เป็นเครื่องมือช่างสำหรับตัดเหล็ก ตัดเหล็กทั่วไป สะดวก รวดเร็ว แต่ต้องเป็นงานที่ไม่ปราณีตมาก
2. เครื่องตัด ขัด เซาะ ： เป็นเครื่องมือช่างที่รองรับการใช้งานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น การตัด ตัดไม้ ตัดท่อพีวีซี งานขัด ขัดหน้าไม้ ขัดผิวเหล็ก หรือ การเหลากำจัดเศษหิน เซาะร่องยาแนว
3. เครื่องตัดพลาสม่า : เป็นเครื่องตัดที่ใช้ความร้อนสูง จึงตัดได้เร็วและเรียบสวย จะสามารถสิ่งของที่มีความแข็งแรง และหนา ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก อลูมิเนียม สแตนเลส และไม้ที่หนามากกว่า 12 มม.
4. เครื่องเจียร์ หรือ ลูกหมู : มีขนาดกระทัดรัด จับได้ถนัดมือ ใช้สำหรับตกแต่งผิวโลหะ และ ตัดวัสดุต่างๆ เช่น ตัดไม้ ตัดเหล็ก พีวีซี กระเบื้อง ไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นต้น
โดยมีหลายขนาดด้วยกัน ขนาด 4" 5" 7" หรือ 9"
ตัวเครื่องประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนด้ามจับ และส่วนมอเตอร์ที่เชื่อมต่อกับใบเจียร์หรือใบตัด
ตัวใบหมุนรอบจัดตามกำลังวัตต์ของเครื่อง สามารถตัดวัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้ เหล็ก สแตนเลส กระเบื้อง เป็นต้น
ใบเจียร์สำหรับเครื่องเจียร์มีหลากหลาย ได้แก่ ใบตัดเหล็ก ใบตัดไม้ ใบตัดปูน ใบเจียร์กระจก ใบขัดกระดาษทราย
เครื่องมืออื่นๆในสวน
อุปกรณ์ในสวนมีหลากหลายมากมาย ที่สำคัญสำหรับมือใหม่หรือคนสวนต้องมีกัน ได้แก่
1. เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า หรือ ไร้สาย
2. เลื่อยไฟฟ้า หรือ เลื่อยยนต์ หรือ เลื่อยไร้สาย
3. ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เป็นเครื่องดูดน้ำหรือถ่ายเทของเหลวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง
4. เครื่องพ่นยา
5. เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง นอกจากในสวน ยังสามารถเอาไว้ล้างรถ ล้างพื้นบ้าน ทำความสะอาดตามกำแพง โดยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงสามารถแบ่งได้หลายประเภทดังนี้
5.1 แยกประเภทตามแหล่งพลังงาน
- เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงแบบใช้พลังงานไฟฟ้า
- เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงแบบใช้พลังงานเครื่องยนต์
5.2 แยกประเภทตามอุณหภูมิน้ำ
- เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงระบบน้ำร้อน ส่วนมากเอาล้างฆ่าเชื้อในฟาร์ม
- เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงระบบน้ำเย็น
อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงซะเครื่อง ปัจจัยหลักที่ต้องคำนึกถึงคือ มอเตอร์ โดยมอเตอร์มีอยู่ 2 แบบ
1. Universal Motor : มอเตอร์แปรงถ่าน ราคาต่ำ ใช้งานหนักไม่ได้
2. Induction Motor : มอเตอร์เนี่ยวนำ ใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ร้อน และเงียบ
จำนวนความแรง และ ความจุน้ำ มักเรียกว่าว่า "บาร์"
เครื่องยิงแม็กหรือเครื่องยิงตะปู
เป็นเครื่องมือช่างในการยึดหรือติดชิ้นงานที่มีตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป
โดยปัจจุบันมีทั้ง ใช้ลม ใช้ไฟฟ้า หรือไร้สาย
ประเภทของเครื่องยิงตะปู แบ่งตามประเภทการใช้งาน โดยแบ่งได้ 2 ประเภทมหญ่ ดังนี้
1. เครื่องยิงตะปูสำหรับงานไม้ : มักใช้งานไม้เนื้ออ่อน งานเฟอร์นิเจอร์ กรอบรูปตู้ งานไม้ไผ่ ท่อเหล็กบาง รวมไปถึงพลาสติก
1.1 เครื่องยิงตะปูขาเดี่ยวรุ่น F30 และ F50 ทั้ง 2 รุ่นเป็นเครื่องยิงตะปู ชนิดขาเดี่ยว เอาไว้ยิงโครงไม้ ไม้อัด งานบัว โดยทั้ง 2 รุ่นจะใช้ลูกแม็กที่มีความยาวตั้งแต่ 10,15,20,25,30,35,40,45 และ 50 มิลมิเมตร
1.2 เครื่องยิงตะปูขาคู่รุ่น 4..J และ 10..J เป็นเครื่องยิงที่เหมาะกับงานผิวเบาะหนัง งานประดับตกแต่ง ของเด็กเล็กที่ทำด้วยไม้
2. เครื่องยิงตะปูสำหรับงานคอนกรีต : เป็นเครื่องยิงที่มีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับยิงคอนกรีต ไม้แข็ง เหล็กหนาตั้งแต่ขนาด 2 มม อลูมิเนียม โดยสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่ม
2.1 กลุ่ม FST จะใช้ลูกตะปูขนาดเหล็ก และมีลักษณะแหลม
2.2 กลุ่ม ST จะใช้ลูกตะปูขนาดใหญ่ เช่น ST-64
เครื่องเป่าลม
โดยเครื่องเป่าลมสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
1 เครื่องเป่าลมหรือโบว์เวอร์ เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ ทำงานโดยการเคลื่อนที่ของอากาศด้วยความเร็ว และสามารถกำหนดทิศทางตามที่เราต้องการได้ มักจะนำไปใช้เป่าฝุ่น เป่าลมไล่น้ำ ล้างแอร์ เป็นต้น
2. เครื่องเป่าลมร้อน เป็นเครื่องมือไฟฟ้าที่นำมาใช้งานเชื่อม งานเคลือบ โดยหลักการทำงานของเครื่องเป่าลมร้อนอาศัยพลังงานไฟฟ้าวงจรภายในตัวเครื่องให้เกิดความร้อน โดยเครื่องเป่าลมร้อนสามารถแบ่งประเภทได้ 3 ประเภทดังนี้
2.1 เครื่องเป่าลมร้อนไฟฟ้า ใช้สำหรับงานเชื่อม งานละลายเคลื่อบชิ้นงาน หรืองานอิเล็กทรอนิกส์ ปกติเครื่องสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ ปรับแรงได้
2.2 เครื่องเป่าลมร้อนความเร็วลมสูง ใช้สำหรับงานเชื่อมและงานหลอมละลายพลาสติกหลากหลายชนิด ตัวเครื่องจะให้ความร้อนสูง มีความแข็งแรงทนทาน
2.3 เครื่องเป่าลมร้อนสำหรับงานเชื่อมโดยเฉพาะ
- ในเรื่องของหัวฉีดของเครื่องเป่าลมร้อนมีหลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น แบบปากแบน แบบตะขอ แบบวงกลม และแบบเชื่อมโดยเฉพาะ (จะมีลักษณะทรงกระบอก โดยปลายหัวเป็นทรงกรวยตัดตัววี มักจะใช้ในอุตสาหกรรมทำท่อดูดไอเสีย ถังบรรจุเคมี เป็นต้น)